นอกจากความสุขจะช่วยชะลอวัยได้แล้ว ยังช่วยยืดอายุขัยให้ผู้สูงวัยมีอายุที่ยืนยาวมากกว่าเดิมได้อีกด้วย

1.มองชีวิตให้งดงาม

   à¸„นในวัยสูงอายุที่มองโลกในแง่ดีจะมีอายุยืนกว่าผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย เพราะจากการศึกษาเป็นเวลา 9 ปีของนักวิจัยชาวเนเธอร์แลนด์ พบว่า ชายและหญิงที่มีระดับการมองโลกในแง่ดีตั้งแต่เริ่มต้นของการศึกษา มีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่ากลุ่มที่มองโลกในแง่ร้ายมากที่สุดเป็นอย่างมาก เมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งหมดแล้วพบว่า ผู้ที่มองโลกในแง่ดีมีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลดลงร้อยละ 29 นอกจากนี้กลุ่มผู้เข้ารับการศึกษาที่มองโลกในแง่ดีมากที่สุด ลดโอกาสที่จะเสียชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน อัมพาต หรือสาเหตุการตายจากระบบหัวใจและหลอดเลือดถึงร้อยละ 77 เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่มองโลกในแง่ร้ายมากที่สุด

2.ความสุขช่วยเสริมสุขภาพ

มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนได้ทำการศึกษากลุ่มชายและหญิงวัยกลางคนที่อาศัยในสหราชอาณาจักร พบว่า คนที่มีความสุขกับชีวิตจะมีระดับสารเคมีสำคัญในร่างกายที่บ่งชี้ว่ามีสุขภาพดีมากกว่าคนที่ไม่ค่อยจะมีความสุขกับชีวิต โดยการศึกษาครั้งนี้เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ได้เชื่อมโยงความสุขในชีวิตประจำวันกับระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดในระดับต่ำ และระดับของโปรตีนไฟบริโนเจนในเลือดที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้เม็ดเลือดแดงจับตัวกันเป็นก้อนและอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้

3.รักยืนยาว ทำให้อายุยืน

   à¸™à¸±à¸à¸§à¸´à¸ˆà¸±à¸¢à¸ˆà¸²à¸à¸¡à¸«à¸²à¸§à¸´à¸—ยาลัยวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ได้เฝ้าติดตามชายและหญิงในวัยสูงอายุจำนวน 3,000 ราย เป็นเวลา 15 ปี ซึ่งจากรายงานพบว่า ผู้ชายที่แต่งงานแล้วมีค่าเฉลี่ยอายุยืนกว่าผู้ที่เป็นโสดถึง 11 เดือน แต่สำหรับผู้หญิง การแต่งงานกลับส่งผลน้อยมากต่อการมีอายุยืนยาว ซึ่งจากการศึกษาก่อนหน้านี้ของคณะวิจัยมหาวิทยาลัยวิกตอเรียของประเทศแคนาดา ที่ได้ติดตามชายและหญิงจำนวน 9,775 ราย พบว่า สุขภาพทางกายและใจของชายและหญิงจะด้อยลง เมื่อหย่าขาดจากกันหรือไม่ได้อยู่ร่วมกัน

   à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸­à¸‡à¸™à¸µà¹‰à¸™à¸±à¸à¸§à¸´à¸—ยาศาสตร์บางรายได้นำเสนอทฤษฎีที่เรียกว่า "สมมติฐานการป้องกันด้วยชีวิตสมรส” ซึ่งแนะนำว่าคู่สมรสสามารถส่งเสริมสุขภาพของกันและกันได้ โดยการสนับสนุนทางด้านสังคม ด้านการเงิน และควบคุมดูแลอุปนิสัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในด้านต่างๆ

4.ลดอาการซึมเศร้า ด้วยการสัมผัส

   à¸žà¸¥à¸±à¸‡à¸ªà¸±à¸¡à¸œà¸±à¸ªà¸šà¸³à¸šà¸±à¸” เป็นวิธีการรักษาของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้ เพราะมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์มากมายที่แสดงให้เห็นว่า การสัมผัสทำให้สุขภาพดีขึ้น ซึ่งสามารถวัดค่าได้อย่างชัดเจน ทั้งผู้ให้การสัมผัส และผู้รับการสัมผัส การโอบกอดจึงเป็นสัมผัสบำบัดที่ให้ผล 2 ทิศทาง มีความปลอดภัย และเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ อีกด้วย

5.เซ็กซ์ช่วยให้ฉลาดและกระปรี้กระเปร่า

    นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยการแพทย์จากประเทศเยอรมนี แนะนำว่า การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราฉลาดขึ้น เพราะในช่วงเล้าโลมและในระหว่างกิจกรรมดังกล่าว ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีนและไฮโดรคอร์ทิโซนออกมาในปริมาณมาก ซึ่งคณะวิจัยอธิบายว่าสารประกอบเหล่านี้จะกระตุ้นส่วนเนื้อสีเทาของสมองซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของสติปัญญา และยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นอีกด้วย

   à¸ˆà¸²à¸à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸ªà¸³à¸£à¸§à¸ˆà¸­à¸¢à¹ˆà¸²à¸‡à¹€à¸›à¹‡à¸™à¸—างการเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในปี ค.ศ.2004 โดยบริษัทดูเร็กซ์ พบว่า ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีเพศสัมพันธ์มากที่สุดในโลก ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วชาวฝรั่งเศสมีเพศสัมพันธ์ถึง 137 ครั้งต่อปี มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 103 ครั้งต่อปี ในขณะที่ชาวญี่ปุ่นมีเพศ สัมพันธ์น้อยที่สุด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 46 ครั้งต่อปีเท่านั้น

Hide Comments | Add Comment